ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๔ ธ.ค.๖๒ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้พูดคุยกับ นางคัง คยอง-ฮวา (H.E. Ms. Kang Kyung-wha) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล
๑.๑ นายหวัง อี้ กล่าวว่า จีนและเกาหลีใต้เป็นประเทศเพื่อนบ้านและคู่ค้าที่สำคัญ ภายใต้การนำของผู้นำทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีใต้ยังคงมีแนวโน้มการพัฒนาอันดี เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ผันผวน ทั้งสองฝ่ายควรเสริมสร้างการแลกเปลี่ยน และความร่วมมือ เพิ่มความเข้าใจและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ร่วมกันตามกฎหมาย รวมถึงการแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค จีนยินดีที่จะร่วมมือกับเกาหลีใต้ เพื่อกำหนดแผนการการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำระดับสูงในขั้นตอนต่อไป และเพิ่มการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี จีนยินดีต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีมุน แจอิน ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมผู้นำจีน - ญี่ปุ่น - เกาหลีครั้งที่ ๘ และยินดีที่จะทำงานร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เตรียมการประชุมให้ประสบความสำเร็จ
๑.๒ นางคัง คยอง-ฮวา กล่าวว่าสถานการณ์ของภูมิภาคในปัจจุบัน มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เกาหลีใต้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือกับจีน สนับสนุนระบอบพหุภาคีของสหประชาชาติ ให้ความสำคัญกับการประชุมผู้นำเกาหลีใต้-จีน-ญี่ปุ่น และจะร่วมมือกับทางจีนเพื่อให้การประชุมประสบความสำเร็จ
๒. ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ ธ.ค.๖๒ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้พบปะกับ นายบัน คี มุน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
๒.๑ นายหวัง อี้ กล่าวว่า จีนแสดงความชื่นชมนายบัน คีมุน มาโดยตลอด ที่ได้ทุ่มเทพิทักษ์ลัทธิพหุภาคี และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ จีนและเกาหลีใต้เป็นประเทศเพื่อนบ้านฉันมิตร ปัจจุบันความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองฝ่ายเป็นไปด้วยดี จีนยินดีร่วมมือกับเกาหลีใต้ ส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางการเมือง จัดการปัญหาที่เผชิญอยู่ด้วยวิถีทางที่เหมาะสม ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในทุกด้าน ขับเคลื่อนความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-เกาหลีใต้ให้ก้าวไปสู่อีกระดับ
๒.๒ นายบัน คีมุน กล่าวว่า การเยือนเกาหลีใต้ของนายหวัง อี้ ครั้งนี้ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ตัวเขาเองหวังให้เกาหลีใต้-จีนมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้นในอนาคต โดยตัวเขาเองยินดีที่จะแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ต่อไป ในการส่งเสริมความสัมพันธ์เกาหลีใต้-จีน การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพิทักษ์ลัทธิพหุภาคี
๓. ในวันเดียวกันนั้น (๕ ธ.ค.๖๒) นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้พูดคุยเจรจากับบุคคลจากทุกแวดวงในประเทศเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล โดยนายหวัง อี้ กล่าวว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ ๗๐ ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จีนใช้เวลาเพียงหลายสิบปี เสร็จสิ้นกระบวนการพัฒนาที่บรรดาประเทศพัฒนาแล้วในโลกตะวันตกยังต้องใช้เวลากว่าร้อยปี หรือหลายร้อยปี ขณะเดียวกันความสำเร็จในการพัฒนาประเทศของจีนยังสร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อการพัฒนาของโลกด้วย และในรอบหลายปีมานี้ อัตราการมีส่วนร่วมของจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกยังคงรักษาระดับอยู่ที่มากกว่า ๓๐% ทั้งนี้ จีนประสบความสำเร็จในการนำประชาชน ๘๕๐ ล้านคนพ้นจากความยากจน โดยมีส่วนร่วมในการลดความยากจนโลกมากกว่า ๗๐% สร้างสิ่งมหัศจรรย์ใหญ่หลวงต่อกระบวนการการพัฒนาของมนุษยชาติ นอกจากนี้ ปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) จีนมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนประจำปีลดลง ๔๕.๘% เมื่อเทียบกับปี ๒๐๐๕ บรรลุเป้าหมายของจีนที่ให้ไว้ต่อประชาคมโลกล่วงหน้า อันถือเป็นคุณประโยชน์สำคัญต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บทสรุป
รัฐบาลจีนและเกาหลีใต้ ตกลงที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกันใหม่ หลังทั้งสองประเทศขัดแย้งกันเรื่องการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ ที่เรียกกันว่า THAAD ในเกาหลีใต้ เมื่อปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐) ซึ่งในขณะนั้น ทำให้จีนไม่พอใจอย่างมากและพยายามคัดค้านมาโดยตลอดว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของจีน โดยทางการจีนได้ตอบโต้เกาหลีใต้โดยออกคำสั่งห้ามบริษัททัวร์ขายแพ็คเกจท่องเที่ยวไปยังเกาหลีใต้ และออกมาตรการต่อต้านบริษัทลอตเต้ของเกาหลีใต้ เนื่องจากลอตเต้ได้ตกลงมอบที่ดินให้กองทัพสหรัฐฯ ใช้เป็นฐานที่ตั้งของระบบ THAAD จนกระทั่งปลายเดือน ต.ค.๖๑ นางคัง คยอง-ฮวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ แจ้งกับฝ่ายนิติบัญญัติเกาหลีใต้ว่าจะไม่พิจารณาการปรับใช้ THAAD เพิ่มเติม และไม่เข้าร่วมในเครือข่ายป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ จึงทำให้ลดความกดดันและผลกระทบต่อการดำเนินความสัมพันธ์กับจีนได้ระดับหนึ่ง พร้อมๆ กับการคลี่คลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี จากการที่ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือพบปะหารือกับผู้นำเกาหลีใต้เมื่อกลางปีที่แล้ว และการพบปะระหว่างผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกับผู้นำสหรัฐฯ เมื่อเดือน ก.พ. และ มิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากเป้าหมายสำคัญของจีนคือการผลักดันเพื่อไม่ให้อิทธิพลของสหรัฐฯ เข้ามาประชิดกับชายแดนของจีนจากกรณีปัญหาคาบสมุทรเกาหลี
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://www.asahi.com/ajw/articles/AJ201912040044.html
http://thai.cri.cn/20191205/7321fd32-bc12-f0c1-943c-15b679256061.html
http://thai.cri.cn/20191206/bc9bb50d-590e-ecb1-908f-8656a6ac690b.html
http://thai.cri.cn/20191206/cd453536-f034-da1f-cc83-73aef7ab9a24.html