bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอาทิตย์ที่ ๒๙ ก.ค.๖๑ : กระทรวงคมนาคมของจีนแถลงข่าวว่า ในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา

กระทรวงคมนาคมของจีนแถลงข่าวว่า ในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา การคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างประเทศภายใต้โครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative : BRI) มีผลคืบหน้าไปอย่างมาก โดยสอดรับกับการแถลงข่าวของกระทรวงการต่างประเทศจีน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๒๖ ก.ค.๖๑ นายอู๋ ชุนเกิง (Wu Chungeng) โฆษกกระทรวงคมนาคมของจีน แถลงว่า ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ ๕ ปี แห่งการคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ที่ได้มีผลคืบหน้าไปอย่างมาก กล่าวคือ
        ๑.๑ ทางด้านรถไฟ นอกจากการเปิดเส้นทางขบวนรถขนส่งสินค้าจากจีนไปยังยุโรปได้มากกว่า ๒๐ เส้นทางแล้ว ยังได้มีการสร้างทางรถไฟเส้นทางมอมบาซา-ไนโรบีของเคนยา และเส้นทางรถไฟ Addis Ababa Djibouti ในเอธิโอเปียจนแล้วเสร็จ นอกจากนี้ BRI ยังเป็นผลดีต่อการส่งเสริมการก่อสร้างทางรถไฟระหว่างประเทศจีน-ลาว และจีน-ไทย
        ๑.๒ ส่วนด้านทางหลวง ได้เริ่มมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ทางหลวงในระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน และสะพานข้ามแม่น้ำตามเส้นทางหลวงระหว่างจีน-รัสเซีย
        ๑.๓ สำหรับด้านการขนส่งทางทะเล จีนได้มีการลงนามข้อตกลงกับ ๓ ประเทศ ทำให้ข้อตกลงการขนส่งแบบทวิภาคีของจีนมีมากถึง ๓๘ โครงการและครอบคลุมถึง ๔๗ ประเทศ
        ๑.๔ ส่วนทางด้านการบินพลเรือน มีข้อตกลงกับ ๘ ประเทศ และมีการเพิ่มสายการบินระหว่างประเทศอีก ๔๐๓ เส้นทาง

๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๒๓ ก.ค.๖๑ นายเกิ่ง ส่วง (Geng Shuang) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการที่จีนกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้ลงนามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ขณะที่ไปเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ซึ่งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง) ในระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๐ ก.ค.๖๑ และประเทศเซเนกัล (ซึ่งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกา) ในระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ ก.ค.๖๑ ว่า
        ๒.๑ จีนจะปฏิบัติตามหลักการการหารือ สร้างสรรค์และแบ่งปันร่วมกัน ร่วมมือกับประเทศและองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง สร้างสันติสุขให้กับภูมิภาคและโลก บรรลุซึ่งสันติภาพ การพัฒนาและความรุ่งเรืองร่วมกันด้วยการปฏิบัติตามข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
        ๒.๒ จีนจะกระชับความร่วมมือภายใต้กรอบโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI โดยเพิ่มการประสานงานทางยุทธศาสตร์การพัฒนา และนโยบายอุตสาหกรรม และจะกระชับความร่วมมือด้านการผลิต การวางแผน และการสร้างสรรค์ รวมทั้งจะนำการสาธิตความร่วมมือด้านการผลิตของจีนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการต้นแบบของ BRI

๓. ข้อสังเกต การที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นภารกิจเยือนต่างประเทศครั้งแรกภายหลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนอีกสมัย และเป็นการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งแรกของผู้นำจีนในรอบ ๓๐ ปี ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเชื่อมโยงต่อแนวคิดโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI โดยเฉพาะถือเป็นโอกาสของการพัฒนาเชิงประวัติศาสตร์ จากการที่จักรวรรดิอาหรับกับจักรวรรดิออตโตมันในอดีตที่เคยรุ่งเรืองใหญ่โต เนื่องจากเส้นทางสายไหมที่เชื่อมการค้าโลกตะวันออกกับตะวันตก ได้แสดงบทบาทหน้าที่สำคัญในการเชื่อมโยงเส้นทางการค้าโบราณ ดังนั้น เมื่อจีนนำเสนอโครงการ BRI บรรดาประเทศในกลุ่มอาหรับจึงมองเป็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศและภูมิภาคสามารถฟื้นฟูความรุ่งเรือง ภายใต้เป้าหมายของความร่วมมือในการพัฒนากับจีน

บทสรุป

นับเป็นความคืบหน้าของจีนในช่วงระยะเวลา ๕ ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ไปเยือนประเทศคาซัคสถานในภูมิภาคเอเชียกลาง เมื่อเดือน ก.ย.๕๖ และเยือนประเทศอินโดนีเซียในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือน ต.ค.๕๖ โดยได้เสนอแนวคิดที่เป็นความริเริ่มสำคัญสองประการคือ "แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม" และ "เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ตามลำดับ ต่อมาแนวคิดความริเริ่มดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในนาม “一带一路 (อี๋ไต้อี๋ลู่) หรือ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (BRI) โดยเฉพาะประเทศตามรายทาง ต่างก็หวังว่าจะมีส่วนร่วมกับ BRI โดยนำไปเชื่อมต่อกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตน เนื่องจาก BRI เป็นอภิมหาโครงการขนาดใหญ่ที่มูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลและจะสร้างผลประโยชน์แก่ประชาชนนับ ๓,๐๐๐ ล้านคนในโลก จากการเชื่อมโยงทวีปเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา รวมทั้งเชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย แต่ที่สำคัญคือ การเชื่อมโยงทั้งด้านนโยบาย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการค้า ด้านการลงทุนและด้านจิตใจของประชาชน อันเป็นสาระสำคัญของ BRI ในขณะที่กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของจีน เช่น กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อน BRI ดังจะเห็นได้จากการประสานการปฏิบัติในการแถลงข่าวของทั้งสองกระทรวงในช่วงหนึ่งสัปดาห์เพื่อผลักดันให้ BRI มีความคืบหน้าเป็นลำดับ

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://gbtimes.com/china-invests-in-42-overseas-ports-under-belt-and-road-project?cat=business

http://www.chinaembassy.or.th/eng/fyrth/t1579914.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/27/63s269470.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/24/102s269339.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/26/102s269424.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/26/102s269423.htm

http://www.china-briefing.com/news/2018/07/25/china-deepens-ties-with-africa-uae-ahead-of-brics-summit.html