bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันจันทร์ที่ ๒๒ มี.ค.๖๔ กรณีที่นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามจากนักข่าวจีนและต่างประเทศเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของจีนและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เมื่อวันที่ ๗ มี.ค.๖๔


 
๑. นายหวัง อี้ กล่าวว่า สาระสำคัญของความสัมพันธ์จีน - อินเดียคือ การที่สองประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกสามารถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและพัฒนาและฟื้นฟูร่วมกันได้อย่างไร เนื่องจากอารยธรรมโบราณสองแห่งอาศัยอยู่ติดกันและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ๒ แห่งที่มีประชากร ๑ พันล้านคน ในโลกปัจจุบัน จีนและอินเดียมีความสนใจร่วมกันอย่างกว้างขวางและมีศักยภาพในการร่วมมือกันอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายร่วมกันปฏิบัติภารกิจทางประวัติศาสตร์ในการปรับปรุงการดำรงชีวิตของผู้คนและเร่งการพัฒนาที่บ้านและดำเนินความคาดหวังร่วมกันในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศกำลังพัฒนาและการพัฒนากระบวนการหลายขั้วในโลก ความคล้ายคลึงกันของเงื่อนไขแห่งชาติของจีนและอินเดียยังกำหนดว่าทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงกันในหลายประเด็นหลัก ดังนั้น จีนและอินเดียจึงเป็นเพื่อนและหุ้นส่วน ไม่ใช่ภัยคุกคามและฝ่ายตรงข้าม
 
๒. นายหวัง อี้ ชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรบรรลุความสำเร็จของกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเสริมสร้างความร่วมมือ แทนที่จะกีดกันซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ข้อพิพาทเรื่องพรมแดนเป็นปัญหาที่หลงเหลือมาจากประวัติศาสตร์ไม่ใช่ความสัมพันธ์จีน - อินเดีย โดยทั้งหมดควรได้รับการจัดการและควบคุมอย่างเหมาะสมและในเวลาเดียวกันด้วยความร่วมมือที่มากขึ้นและเข้มแข็งขึ้น เพื่อสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยในการแก้ไขปัญหาชายแดน ข้อดีของความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนเมื่อปีที่แล้วมีความชัดเจนมาก และข้อดีข้อเสียก็ชัดเจน รวมทั้งข้อเท็จจริงได้พิสูจน์อีกครั้งว่าการสร้างการเผชิญหน้าเพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้และการกลับสู่การเจรจาสันติภาพเป็นวิธีที่ถูกต้อง จุดยืนของจีนในการแก้ไขข้อพิพาทด้านพรมแดนผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือมีความชัดเจน ตลอดจนเจตจำนงในการปกป้องสิทธิอธิปไตยและผลประโยชน์ของตนก็มั่นคงเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายควรรวบรวมฉันทามติที่มีอยู่เสริมสร้างการเจรจาและการสื่อสาร รวมทั้งปรับปรุงกลไกการจัดการและการควบคุม ตลอดจนร่วมกันรักษาสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดน
 
บทสรุป

นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่า ในปีใหม่นี้หวังว่าอินเดียและจีนจะได้พบกันครึ่งทางและดำเนินการตามมติเอกฉันท์ของผู้นำทั้งสองประเทศอย่างจริงจังว่า "ไม่เป็นภัยคุกคามต่อกันและให้โอกาสในการพัฒนาซึ่งกันและกัน" (“互不构成威胁、互为发展机遇”) อันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของกันและกันมากขึ้นต่อชาวจีนและชาวอินเดีย ๒.๗ พันล้านคน เพื่อสร้างผลงานให้มากขึ้นในการถือกำเนิดของศตวรรษแห่งเอเชีย
 
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล  

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://mp.weixin.qq.com/s/49ca7MN-KmorRhpHTnOzsw