bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพฤหัสบดีที่ ๒ ธ.ค.๖๔ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย และนายเหริน เจิ้งเฟย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเหว่ย จัดการประชุมออนไลน์ เมื่อวันที่ ๒๕ พ.ย.๖๔

๑. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณหัวเหว่ยที่ให้การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลของประเทศไทยและการฟื้นตัวหลังเกิดโรคระบาด และแสดงความเต็มใจที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับหัวเหว่ย เพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์ประเทศไทย ๔.๐ (泰国4.0战略) และการฝึกอบรมผู้มีความสามารถด้านดิจิทัล โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศไทย และวางรากฐานที่แข็งแกร่งของบุคลากรด้าน ICT โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำบทบาทสำคัญของเทคโนโลยี ICT ขั้นสูงและนวัตกรรมดิจิทัลในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและการพัฒนาที่ยั่งยืน ขณะที่นายเหริน เจิ้งเฟย กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยสำหรับความไว้วางใจในหัวเหว่ยและแสดงความยินดีกับประเทศไทยต่อความสำเร็จในการปรับใช้ 5G

๒. เพื่อสนับสนุนพิมพ์เขียวดิจิทัลของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน โดยหัวเว่ยและรัฐบาลไทยได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดใน ๒ ประเด็นหลัก กล่าวคือ
๒.๑ ประการแรก การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย ๔.๐ โดยหัวเหว่ยร่วมมือกับลูกค้าชาวไทยเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทยและนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านICT ด้วยการปรับใช้เทคโนโลยี 5G, คลาวด์ และ AI ทั้งนี้ หัวเว่ยและพันธมิตรในอุตสาหกรรมได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับอุตสาหกรรมหลักในประเทศไทยและสร้างโอกาสที่ดีในหลายด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา การคมนาคมขนส่ง รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และเมืองอัจฉริยะ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในระยะยาว รวมทั้งการพัฒนาและการสร้างระบบนิเวศดิจิทัล
๒.๒ ประการที่สอง นายกรัฐมนตรี และนายเหริน เจิ้งเฟย ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการปลูกฝังความสามารถทางดิจิทัลสำหรับประเทศไทย รวมทั้งยังเน้นย้ำด้วยว่า เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทยและการพัฒนาในระยะยาว ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบนิเวศที่มีความสามารถด้าน ICT ที่เปิดกว้าง แบ่งปัน และได้รับผลประโยชน์

บทสรุป

สำหรับแนวทางในการดำเนินการเพื่อช่วยประเทศไทยในการฝึกอบรมผู้มีความสามารถด้าน ICT ในท้องถิ่น หัวเว่ยได้ก่อตั้ง Huawei ASEAN Academy (Thailand) ขึ้นในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) จนถึงปัจจุบัน ทางสถาบันได้ฝึกอบรมผู้มีความสามารถด้าน ICT มากกว่า ๔๑,๐๐๐ คนในประเทศไทย และจัดฝึกอบรมให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๑,๓๐๐ รายนอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับมหาวิทยาลัยของไทยกว่า ๒๐ แห่ง ในขณะที่ยุคดิจิทัลกำลังเร่งตัวขึ้น หัวเหว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความรู้ด้านดิจิทัลและโอกาสในการจ้างงานของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสผ่านมาตรการในการรวมระบบดิจิทัล เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังในยุคดิจิทัล

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

 https://www.huawei.com/cn/news/2021/11/thailand-prime-minister-huawei-ceo-ren