สรุปผลการเดินทางของ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำหนด ๕ วัน ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๑ ส.ค.๖๑ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๒๐ ส.ค.๖๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พบปะกับ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เรือนรับรองในกรุงปักกิ่ง
๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวชื่นชมว่า รัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซียให้ความสำคัญอย่างสูงต่อความสัมพันธ์จีน-มาเลเซีย อีกทั้งยังชื่นชม ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่แสดงออกหลายครั้งว่า จีนได้สร้างโอกาสการพัฒนามาเลเซีย และสนับสนุนโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI) ตลอดจนชื่นชม ดร.มหาเธร์ฯ ที่ได้ทำคุณประโยชน์อันสำคัญในการผลักดันความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย
๑.๒ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่า การเยือนจีนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสำคัญของรัฐบาลมาเลเซียชุดใหม่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่รัฐบาลจีนและประชาชนจีนว่า มิตรภาพต่อจีนของมาเลเซียจะไม่เปลี่ยนแปลง ความร่วมมือระหว่างจีน-มาเลเซียจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาของมาเลเซีย นอกจากนี้มาเลเซียชื่นชอบและนับถือการพัฒนาด้วยตนเองของจีน ตลอดจนชื่นชมผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของจีนในด้านอุตสาหกรรมและการพาณิชย์
๒. ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน
๒.๑ นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวถึงศักยภาพอันมหาศาลในความร่วมมือจีนและมาเลเซีย โดยฝ่ายจีนยินดีที่จะประสานโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI เพื่อเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของมาเลเซีย ส่งเสริมความร่วมพัฒนในภาคธุรกิจต่างๆ ตลอดจนนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่โดเด่นของแดนเสือเหลืองเพื่อตอบเสนอความต้องการผู้บริโภคจีนมากขึ้น ยกระดับการค้าทวิภาคี
๒.๒ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่า จีนและมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ได้พัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันอย่างต่อเนื่องมาตลอด การเยือนประเทศจีนครั้งนี้ นับเป็นการเยือนต่างประเทศนอกกลุ่มอาเซียนครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง และเป็นการเยือนจีนครั้งที่ ๘ ในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียยังคงนโยบายสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีนทั้งจะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก โดยส่งเสริมการค้าการลงทุน ตลอดจนสนับสนุนโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI
๓. ข้อสังเกต นายไพศาล พืชมงคล นักวิเคราะห์สถานการณ์ด้านความมั่นคงเห็นว่า การที่ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ตัดสินใจเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อเป้าหมายในภารกิจ ๒ ประการ คือ
๓.๑ ประการแรก เพื่อเจรจาให้รัฐบาลจีนปรับปรุงเงื่อนไขสัญญารถไฟ ขอลดค่าก่อสร้าง และปรับปรุงระยะเวลาและเงื่อนไขการชำระหนี้ รวมทั้งการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ
๓.๒ ประการที่สอง เพื่อเจรจาขอร้องให้รัฐบาลจีนช่วยรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิด และทุกจำนวนของมาเลเซีย เพื่อทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรฟื้นฟูขึ้นตามราคาตลาด อันเป็นการเพิ่มรายได้ประชาชาติของมาเลเซียทั้งประเทศ
บทสรุป
รัฐมนตรีมาเลเซียได้แสดงท่าทีที่ชื่นชมต่อการพัฒนาที่น่ามหัศจรรย์ของจีน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งในด้านการพาณิชย์กรรมและอุตสาหกรรม ในขณะที่มาเลเซียกำลังผลักดันนโยบาย “สู่ตะวันออก” (Look East) โดยพิจารณาแนวทางการพัฒนาของจีนมาเป็นแบบอย่างในการเรียนรู้ถึงประสบการณ์ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะในการส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อการก้าวไกลในการพัฒนาประเทศ และในระหว่างการเยือนประเทศจีน นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซียได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับจีนหลายฉบับ รวมทั้งได้เดินสายพบปะกับกลุ่มนักธุรกิจใหญ่ของจีน เช่น นาย แจ๊ค หม่า ประธานอาลีบาบา กรุ๊ป และนาย หลี่ ซูฝู ยักษ์ใหญ่รถยนต์จีน “เจ้อเจียง จี๋ลี่ โฮลดิ้งส”เป็นต้น จึงน่าติดตามความเคลื่อนไหวของความร่วมมือระหว่างจีนกับมาเลเซีย โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟ East Coast Rail Link ในมาเลเซียที่ยังต้องเจรจากันต่อไป
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.channelnewsasia.com/news/asia/mahathir-mohamad-malaysia-china-projects-10623184
https://mgronline.com/china/detail/9610000083544
http://thai.cri.cn/247/2018/08/21/301s270191.htm
https://www.facebook.com/206264556138891/posts/1771790269586304/
http://www.xinhuanet.com/english/2018-08/13/c_137386955.htm