bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพุธที่ ๑๓ มิ.ย.๖๑ : สาระสำคัญในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ต่อทิศทางขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO

สุนทรพจน์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ต่อทิศทางขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO (Shanghai Cooperation Organization) มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ประเด็นสำคัญในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งได้สรุปผลการพัฒนาและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดทิศทางโดยรวม เกี่ยวกับการพัฒนา SCO ในอนาคต
        ๑.๑ การปลุกจิตวิญญาณของความร่วมมือใน SCO เพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะการก้าวข้ามสภาวะที่จะนำไปสู่สงครามเย็น อันมีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มต่างๆ และต่อต้านการปฏิบัติเพื่อปกป้องผลประโยชน์จำเพาะของประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยต้องมุ่งสู่การรักษาเสถียรภาพความมั่นคงระหว่างประเทศโดยรวม
        ๑.๒ การแสวงหาความร่วมมือ เพื่อให้มีระเบียบระหว่างประเทศที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้น
        ๑.๓ การมีปฏิสัมพันธ์แบบเอกภาพนิยม (unilateralism) เพื่อปกป้องผลประโยชน์การค้า จะเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการแสวงหาความร่วมมือ เพื่อความเชื่อมโยงกันของผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคต
        ๑.๔ จีนจะตั้งงบประมาณ ๓ หมื่นล้านหยวน หรือ ๔,๗๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย ราว ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็นกองทุนกู้ยืมพิเศษสำหรับประเทศสมาชิก SCO ภายใต้กรอบงานของ Inter-Bank Consortium ของ SCO
        ๑.๕ การสร้างโอกาสในการฝึกอบรมแก่พนักงานกลุ่มสมาชิก SCO ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถึง ๓,๐๐๐ คน รวมทั้ง จีนยินดีที่จะให้บริการทางอุตุนิยมวิทยาโดยใช้ดาวเทียมจากดาวเทียม เฟิงหยุน-๒ เอช (Fengyun-2H) ให้แก่ประเทศสมาชิก และยินดีต้อนรับทุกฝ่ายร่วมในงาน China International Import Expo ครั้งแรกที่จะจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้ ตลอดจนจะจัดตั้งคณะกรรมการบริการด้านกฎหมายให้สมาชิก SCO
        ๑.๖ การสร้างเครือข่ายพันธมิตรความร่วมมือระหว่างประเทศ ในความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ รวมทั้งเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลกและสถาบันการเงินอื่น ๆ อีกด้วย

๒. แนวโน้มทิศทางในอนาคตของ SCO
        ๒.๑ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว มราเมืองชิงเต่า เมื่อวันที่ ๑๐ มิ.ย.๖๑ ว่า ภายใต้ความพยายามร่วมกันระหว่างจีน และทุกประเทศสมาชิก SCO ทำให้การประชุมสุดยอดที่เมืองชิงเต่าประสบผลสำเร็จเกินคาด โดยเฉพาะประเด็นสำคัญ ๓ ข้อ คือ ข้อหนึ่ง เป็นการย้ำ "เจตนารมณ์เซี่ยงไฮ้" ข้อสอง เป็นการปลุกจิตสำนึกในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน และ ข้อสาม การมีข้อเสนอของ SCO เกี่ยวกับการบริหารจัดการโลก
        ๒.๒ นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้แถลงที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๑๑ มิ.ย.๖๑ ว่า จีนจะร่วมมือกับทุกประเทศสมาชิก SCO เพื่อลงมือปฏิบัติตามข้อตกลง ที่ได้ระบุในช่วงการประชุมสุดยอด SCO ที่เมืองชิงเต่าในทุกด้าน โดยมุ่งปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค รวมทั้งความร่วมมืออย่างเสมอภาคของโลก และจะผลักดันให้ SCO มีความสามัคคีที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีอนาคตที่กว้างไกลมากขึ้น ภายใต้เจตนารมณ์เซี่ยงไฮ้ หรือ "สปิริตเซี่ยงไฮ้" เพื่อกำหนดเป้าหมายใหม่ของ SCO และแนวปฏิบัติในการร่วมมือในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ จีนในฐานะผู้ริเริ่มก่อตั้ง SCO จะร่วมมือกับประเทศสมาชิก ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ลงนามร่วมกันในช่วงการประชุมดังกล่าว

บทสรุป

การที่ SCO ประกอบด้วยประเทศสมาชิก ๘ ประเทศ ประเทศผู้สังเกตการณ์ ๔ ประเทศ และประเทศคู่เจรจา ๖ ประเทศ โดยมีขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของ SCO ครอบคลุมจากขั้วโลกเหนือถึงมหาสมุทรอินเดีย เป็นพื้นที่ถึง ๓ ใน ๕ ของยูเรเชีย (ทวีปยุโรปและเอเชีย) และมีจำนวนประชากรรวมกันกว่า ๓,๑๐๐ ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มีมูลค่าสูงกว่า ๑๗ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นสัดส่วน ๒๐% ของ GDP โลก จึงทำให้ SCO กลายเป็นองค์การขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลในระดับโลก ที่ย่อมจะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งอาเซียน โดยเฉพาะกัมพูชาซึ่งเป็น ๑ ในประเทศสมาชิกอาเซียนก็มีสถานะเป็นประเทศคู่เจรจาของ SCO ดังนั้น การที่ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นประธานของอาเซียนในปีหน้า จึงควรเตรียมการเพื่อรองรับต่อทิศทางในการดำเนินการของ SCO ด้วย

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://mgronline.com/china/detail/9610000057894

https://mgronline.com/china/detail/9610000057783

https://mgronline.com/china/detail/9610000058224

https://mgronline.com/china/detail/9610000056500

http://thai.cri.cn/247/2018/06/12/223s267959.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/06/12/63s267964.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/06/11/233s267906.htm