bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพุธที่ ๒ พ.ค.๖๑ : ข้อคิดในการต่อสู้ชีวิตของมหาเศรษฐีจีนที่สร้างความร่ำรวยมาด้วยหนึ่งสมองสองมือ

ข้อคิดในการต่อสู้ชีวิตของมหาเศรษฐีจีนที่สร้างความร่ำรวยมาด้วยหนึ่งสมองสองมือ จากสาวโรงงานสู่การเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตกระจกหน้าจอสัมผ้สเจ้าใหญ่ของโลก ผู้มีนามว่า "โจว ฉุนเฟย" กับ ชายผู้พลิกผันชีวิตจากชาวนาสู่การเป็นเจ้าของกลุ่มบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่ ผู้มีนามว่า "หลี่ ซูฝู" ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. โจว ฉุนเฟย (周群飞 / Zhou Qunfei) ปัจจุบันอายุ ๔๘ ปี ถือเป็นสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า ๗,๔๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๒๓๓,๐๐๐ ล้านบาท อีกทั้งได้ถูกยกย่องว่าเป็น มหาเศรษฐีฝ่ายหญิงอันดับ ๑ ของโลกที่สร้างฐานะมาด้วยลำแข้งตัวเอง (World's richest self-made woman) ในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้ง และซีอีโอบริษัทผู้ผลิตกระจกหน้าจอสัมผัส (Touchscreen) เจ้าใหญ่ของโลกที่มีชื่อว่าเลนส์ เทคโนโลยี (Lens Technology) ซึ่งก่อตั้งในปี ๒๐๐๔ (พ.ศ.๒๕๔๗) และต่อมาเมื่อปี ๒๐๑๕ (พ.ศ.๒๕๕๘) ก็เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น

๒. เคล็ดลับ ๓ เรื่อง ที่ทำให้ โจว ฉุนเฟย ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ได้แก่
        ๒.๑ จงเตรียมตัวให้ดี (Prepare well)
โจว ฉุนเฟย กล่าวว่าถ้าริจะทำธุรกิจ จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต โดย ประการแรก ต้องพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของตัวเองในภาพรวมเสียก่อน ประการที่สอง ต้องทำจิตใจให้แกร่ง แกร่งจนกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความล้มเหลว และประการที่สาม ทำความเข้าใจในตลาดที่คุณกำลังทำธุรกิจอยู่ รวมถึงคู่แข่งจนเข้าใจถ่องแท้และเตรียมแผนสำรองไว้เสมอ
        ๒.๒ จงเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา (Keep learning) โดยความรู้และความเข้าใจในธุรกิจจะช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเอาไว้
        ๒.๓ จงอย่ายอมแพ้ (Never give up) ซึ่งเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ แม้ในห้วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด โดยมีเพียงการยืนหยัดและเดินหน้าต่อเท่านั้นที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ จงอย่ายอมแพ้ เพียงเพราะความล้มเหลวหรืออุปสรรคเพียงเล็กน้อย

๓. ในขณะที่ หลี่ ซูฝู (李书福 / Li Shufu) ปัจจุบันอายุ ๕๕ ปี เจ้าของกลุ่มบริษัท "จี๋ลี่" (Geely Auto) เป็นกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน ปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมียอดการจำหน่ายประมาณ ๒๗๐,๐๐๐ ล้านหยวน จ่ายภาษี ๓๔,๖๐๐ ล้านหยวนในทั่วโลก ในจำนวนนี้ จ่ายภาษี ๑๘,๓๐๐ ล้านหยวนในจีน มีกำไรเกินกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านหยวน ปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) ที่ได้กำหนดเป้าหมายจำหน่ายรถยนต์ ๑,๕๘๐,๐๐๐ คัน และได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทเดมเลอร์เยอรมนี จำนวน ๙.๖๙%

๔. เคล็ดลับ ๓ เรื่อง ที่ทำให้ หลี่ ซูฝู ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่                                                                                                                                                        ๔.๑ การมองเห็นโอกาส จากการที่รัฐบาลจีนปรับปรุงโครงสร้างการผลิต มีการออกนโยบายที่สั่งปิดโรงงานผลิตขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดมลพิษค่อนข้างมากจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึง โรงงานของนายหลี่ ซูฝูด้วย เขาก็เลยปิดโรงงานและไปเรียนต่อที่เมืองเซินเจิ้นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ของจีน เรียนวิชาการบริหารเศรษฐกิจ โดยตอนที่เรียนหนังสือ เศรษฐกิจจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ประชาชนจีนรวยขึ้น และพากันซื้อบ้านใหม่ ตกแต่งบ้านใหม่ นายหลี่ ซูฝู ก็ได้เห็นถึงโอกาสในการค้าวัสดุก่อสร้าง จึงรีบตั้งโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง อีกไม่นาน โรงงานของเขาก็ได้ผลิตแผ่นอลูมิเนียมโค้งแบบแรกของจีน ต่อมาเมื่อปี ๑๙๙๔ (พ.ศ.๒๕๓๗) นายหลี่ ซูฝู สังเกตเห็นว่า ทั่วประเทศจีนมีโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์จำนวนมาก แต่ไม่มีการผลิตรถจักรยานยนต์ระดับหรู ก็เลยตัดสินลงทุนในด้านนี้ จัดตั้งกลุ่มบริษัท"จี๋ลี่" ที่นอกจากครองตลาดรถยนต์ในจีนแล้ว ยังส่งออกไปจำหน่ายถึง ๒๘ ประเทศ
        ๔.๒ การกล้าตัดสินใจ โดยการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เอง และกำหนดราคาประมาณ ๓๐,๐๐๐ หยวน หรือประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ในปี ๑๙๙๙ (พ.ศ.๒๕๔๒) ซึ่งนับเป็นข่าวใหญ่ของสังคมจีนในเวลานั้น เพราะรถยนต์ที่วิ่งตามถนนทั่วประเทศจีนในตอนนั้น ส่วนใหญ่เป็นรถต่างประเทศ และมีราคาสูงมาก
๔ ๓ การมีวิสัยทัศน์ โดยเห็นว่าในอนาคต บริษัทผลิตรถยนต์จะมีเหลือแค่ ๒ – ๓ แห่งที่สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งบริษัทเดมเลอร์เป็นผู้นำการผลิตรถยนต์ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นผู้นำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์พลังงานใหม่ รถยนต์ไร้คนขับและระบบปัญญาประดิษฐ์ การร่วมมือกับเดมเลอร์และวอลโว่ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

บทสรุป

จุดเปลี่ยนวิถีชีวิตของโจว ฉุนเฟย จากสาวโรงงานสู่มหาเศรษฐีฝ่ายหญิง เกิดขึ้นจากความพยายามแสวงหาความรู้และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยตลอด จนได้พบกุญแจของความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ จากการเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการพัฒนาความสามารถของตนเอง มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคทั้งปวง มีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่สำคัญคือ การไม่ยอมแพ้ ในขณะที่หลี่ ซูฝู ก็ได้ผลิกผันชีวิตจากชาวนาสู่มหาเศรษฐีเจ้าของกลุ่มบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ จากการมองเห็นโอกาส รวมทั้งการกล้าตัดสินใจ และการมีวิสัยทัศน์ ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ทั้งสองท่านดังกล่าว สร้างจุดเปลี่ยนที่ผลิกผันชีวิตให้ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจ

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://mgronline.com/china/detail/9610000042081

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Zhou_Qunfei 

http://thai.cri.cn/247/2018/04/12/121s266216.htm 

http://thai.cri.cn/247/2018/04/16/227s266314.htm 

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Li_Shufu