bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันศุกร์ที่ ๒๒ พ.ค.๖๓ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวถึงข้อเสนอในการควบคุมโรคระบาด ๖ ประการ และมาตรการ ๕ ประการ ในการสร้างประชาคมด้านสาธารณสุขโลก ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

จีนศึกษา วันศุกร์ที่ ๒๒ พ.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวถึงข้อเสนอในการควบคุมโรคระบาด ๖ ประการ และมาตรการ ๕ ประการ ในการสร้างประชาคมด้านสาธารณสุขโลก ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ ๗๓ เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ค.๖๓ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. นายหม่า เจาซวี่ (马朝旭 Ma Zhaoxu) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน(外交部副部长Deputy Minister of Foreign Affairs) กล่าวว่า สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ ๗๓ นั้น เป็นความคิดริเริ่มที่มีความสำคัญใน ๔ ประเด็น ได้แก่ (๑) การแบ่งปันประสบการณ์ในการควบคุมและการรักษาโรค (๒) การรวมพลังระหว่างประเทศ (๓) การแสดงความรับผิดชอบของจีนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโลก และ (๔) การปรับปรุงระบบการกำกับดูแลเพื่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุข เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการปฏิบัติที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นระดับโลกในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด-๑๙ โดยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับโรคและการวางแผนสำหรับระบบการกำกับดูแลระดับโลกในอนาคต  

๒. ข้อเสนอในการควบคุมโรคระบาด ๖ ประการ ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกอบด้วย
     ๒.๑ ต้องให้ความสำคัญกับชีวิตผู้คนเป็นลำดับแรก และใช้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์พร้อมอุปกรณ์ ดำเนินการตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสทั่วโลกและหยุดยั้งการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน โดยต้องเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และดำเนินการตามความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับวิธีการทดสอบการรักษาทางคลินิก การวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยา
     ๒.๒ องค์การอนามัยโลก (WHO) ควรเป็นผู้นำในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญต่อการป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-๑๙ ดังนั้น จีนขอเสนอให้ประชาคมระหว่างประเทศเพิ่มการสนับสนุนทางการเมืองและการเงินให้กับ WHO เพื่อระดมทรัพยากรทั่วโลกในการกำจัดไวรัส
     ๒.๓ เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะประเทศในแอฟริกามีระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอกว่า ดังนั้น การช่วยสร้างขีดความสามารถในการตอบสนองต่อโควิด-๑๙ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยจีนได้ส่งเวชภัณฑ์และความช่วยเหลือจำนวนมหาศาลไปยังประเทศในแอฟริกากว่า ๕๐ ประเทศ และส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจีนไปยังทวีปแอฟริกาเพื่อให้การช่วยเหลือด้วย ซึ่งปัจจุบันทีมแพทย์จีนประจำอยู่ในแอฟริกา ๔๖ คน
     ๒.๔ ต้องเสริมสร้างธรรมาภิบาลระดับโลกในด้านสาธารณสุข เนื่องจากการแพร่ระบาดของโลกในครั้งนี้อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรับปรุงระบบการกำกับดูแลเพื่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจัดตั้งศูนย์สำรองระดับโลกและระดับภูมิภาคสำหรับเวชภัณฑ์ต้านการแพร่ระบาด โดยอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความเป็นมืออาชีพที่นำโดยองค์การอนามัยโลก ที่ดำเนินการในลักษณะที่เป็นกลางและเป็นธรรม
     ๒.๕ ต้องฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยควรมีการประสานงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาคระหว่างประเทศ รวมทั้งอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก
     ๒.๖  ต้องเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เนื่องจากความเป็นปึกแผ่นและความร่วมมือเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการเอาชนะไวรัส

๓. มาตรการ ๕ ประการ ในการสร้างประชาคมด้านสาธารณสุขโลก ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้แก่
     ๓.๑ จีนจะให้การช่วยเหลือระหว่างประเทศ ๒ พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในสองปีเพื่อสนับสนุนประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาในการต่อสู้กับโรคระบาดและการฟื้นตัวของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
     ๓.๒ จีนจะร่วมมือกับสหประชาชาติในการจัดตั้งคลังสินค้าฉุกเฉินและศูนย์รวมด้านมนุษยธรรมระดับโลกในประเทศจีน เพื่อสร้างความมั่นใจในห่วงโซ่อุปทานของวัสดุป้องกันการแพร่ระบาดและสร้างช่องทางสีเขียวสำหรับการขนส่งและพิธีการศุลกากร
     ๓.๓ จีนจะสร้างกลไกความร่วมมือโดยการจับคู่กับโรงพยาบาล ๓๐ แห่งในแอฟริกา และเร่งการก่อสร้างสำนักงานใหญ่ของศูนย์ควบคุมโรคแอฟริกัน เพื่อการเตรียมความพร้อมในการควบคุมโรค
     ๓.๔ หลังจากการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-๑๙) ของจีนเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะถูกใช้เป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะทั่วโลก เพื่อให้จีนมีส่วนร่วมในการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอในประเทศที่กำลังพัฒนา
     ๓.๕ จีนจะดำเนินการ "โครงการบรรเทาหนี้ที่รอการตัดบัญชีสำหรับประเทศยากจน" กับสมาชิกกลุ่ม G20 และยินดีที่จะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มการสนับสนุนสำหรับประเทศที่มีโรคระบาดรุนแรงให้สามารถเอาชนะปัญหาได้

บทสรุป

นายหม่า เจาซวี่ เห็นว่า การที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้เชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเปิดการประชุมสมัชชาสุขภาพโลกครั้งที่ ๗๓ อันแสดงให้เห็นถึงการยอมรับของประชาคมระหว่างประเทศถึงความสำเร็จของจีนในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด รวมทั้งบทบาทที่สำคัญของจีนในความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามแนวคิดประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ที่นอกจากจะแสดงถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนแล้ว ยังได้แสดงถึงความรับผิดชอบต่อการเป็นประเทศใหญ่ของจีนในด้านภารกิจสาธารณสุขโลกอีกด้วย

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์ 

https://www.fmprc.gov.cn/web/wjbxw_673019/t1780477.shtml

https://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/wjbxw/t1780893.shtml

http://www.chinanews.com/gn/2020/05-18/9187910.shtml

https://www.globaltimes.cn/content/1188716.shtml

https://language.chinadaily.com.cn/a/202005/19/WS5ec33e74a310a8b241156a8a.html

http://en.nhc.gov.cn/2020-05/19/c_80267.htm

http://thai.cri.cn/20200519/68848039-e49c-a9dc-4ebb-14acc87abfbb.html

http://thai.cri.cn/20200519/bc60e509-3c01-16ae-322a-673a5ba7f550.html

https://news.sina.com.cn/c/xl/2020-05-18/doc-iirczymk2300872.shtml

https://ishare.ifeng.com/c/s/v004-_1-_5XKdqJXLsdQVtZ44W-_ruZHLp5V3-_ezmGtJX7-_rgFXdf9Ym6rraveuOfWVUbbt?spss=np&aman=4Wf95E5aa6ca6jfc6I338&gud=228837Q115&from=groupmessage&isappinstalled=0