bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา (วันอังคารที่ ๒๔ พ.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลที่นายจาง จวิน (张军) เอกอัครราชทูตถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ ได้แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งได้เปิดการอภิปรายเกี่ยวกับความขัดแย้งและความมั่นคงด้านอาหาร เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค.๖๕ ความว่า

จีนศึกษา (วันอังคารที่ ๒๔ พ.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลที่นายจาง จวิน (张军) เอกอัครราชทูตถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ ได้แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งได้เปิดการอภิปรายเกี่ยวกับความขัดแย้งและความมั่นคงด้านอาหาร เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค.๖๕ ความว่า
ความมั่นคงด้านอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศและการดำรงชีวิตของประชาชน และยังเป็นความท้าทายที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องเผชิญมาเป็นเวลานานอีกด้วย ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ เช่น การกระบาดของโรคโควิด-19 สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ราคาอาหารในปัจจุบันได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานเริ่มเด่นชัดขึ้น และประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งต้องใช้ทัศนคติที่สงบ เป็นกลาง และปฏิบัติได้จริงเพื่อตรวจสอบปัญหาความมั่นคงด้านอาหารอย่างครอบคลุม และร่วมกันจัดการกับความท้าทายของความมั่นคงด้านอาหารทั่วโลก

ประการแรก จำเป็นต้องเสริมสร้างการดำเนินการที่ประสานกันเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอาหารโลก วิกฤตการณ์อาหารเกิดจากอุปทานที่ลดลง การหมุนเวียนที่ติดขัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขึ้นราคา เพื่อชดเชยช่องว่างอุปทาน ประชาคมระหว่างประเทศควรทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาเสบียงอาหารที่หลากหลายและรักษาการดำเนินงานที่ราบรื่นของการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ

ประการที่สอง ต้องเพิ่มความช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อช่วยให้ประเทศที่เปราะบางฝ่าฟันอุปสรรค ในปีที่ผ่านมา ประชาชนราว ๑๙๓ ล้านคนใน ๕๓ ประเทศประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหาร และในปีนี้สถานการณ์จะยิ่งแย่ลงไปอีกหลายประเทศกำลังเผชิญกับแรงกดดันต่อดุลการชำระเงินเนื่องจากราคาอาหารที่สูงขึ้น สถาบันการเงินระหว่างประเทศและประเทศที่พัฒนาแล้วควรเสริมสร้างนโยบายและการสนับสนุนทางการเงินสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบปัญหาพิเศษ

ประการที่สาม ต้องส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกและเสริมสร้างความยืดหยุ่นของระบบอาหารทั่วโลก กุญแจสำคัญคือการมีวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาวเพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาปรับปรุงความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านอาหาร เพิ่มการลงทุนด้านการเกษตรและชนบท เร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการเกษตร ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร และขยายการจัดหาอาหาร

ประเทศที่พัฒนาแล้วควรลดอุปสรรคทางการค้าและทางเทคนิค ให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในด้านทุน เทคโนโลยี ตลาด และการเสริมสร้างศักยภาพ และมีบทบาทที่เหมาะสมในการสร้างระบบการจัดหาอาหารทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ เปิดกว้าง และยุติธรรม
ประเทศจีนถือว่าการแก้ปัญหาอาหารของประชาชนเป็นภารกิจหลักในการบริหารประเทศและรักษาความมั่นคงของประเทศมาโดยตลอด ซึ่งจีนต้องเลี้ยงประชากรเกือบ ๑ ใน ๕ ของประชากรโลกด้วยพื้นที่เพาะปลูก ๙% ของโลก สามารถขจัดความยากจนโดยสิ้นเชิงและช่วยประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ปรับปรุงผลิตภาพทางการเกษตรผ่านความช่วยเหลือจากต่างประเทศและความร่วมมือใต้-ใต้ ทั้งนี้ จีนได้เสนอความคิดริเริ่มเพื่อการพัฒนาระดับโลก โดยยึดความมั่นคงด้านอาหารเป็นประเด็นสำคัญของความร่วมมือ และมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณูปการเชิงบวกเพื่อจัดการกับความท้าทายด้านอาหารทั่วโลก

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://un.china-mission.gov.cn/hyyfy/202205/t20220520_10689744.htm )