bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๒๕ ธ.ค.๖๑ : ทิศทางเศรษฐกิจของจีนในปี พ.ศ.๒๕๖๒

ทิศทางเศรษฐกิจของจีนในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ในการประชุมของกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เกี่ยวกับงานด้านเศรษฐกิจจีนในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) เมื่อวันที่ ๑๓ ธ.ค.๖๑ ซึ่งประเด็นสำคัญที่เป็นเนื้อหาของรายงานการศึกษาวิเคราะห์ได้แก่
        ๑.๑ การมีความก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยนับตั้งต้นแต่ปีนี้เป็นต้นมา จีนมีการเปลี่ยนแปลงกับภายนอกที่มีประสิทธิภาพ การปฏิรูปโครงสร้างฝั่งอุปทานมีความคืบหน้าอย่างลึกซึ้ง และประชาชนได้รับผลประโยชน์มากขึ้น โดยในปี ๒๐๑๙ (พศ.๒๕๖๒) เป็นปีแห่งการครบรอบ ๗๐ ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยเหตุนี้ การรักษาหลักการทำงานที่มีความก้าวหน้าอย่างมั่นคงจึงมีความหมายหมายที่สำคัญ
        ๑.๒ การพัฒนาด้วยคุณภาพสูง ซึ่งในการประชุมกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า ปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) จีนได้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาระดับสูง โดยประชาชนได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ส่วนปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) จีนจะยืนหยัดการปฏิรูปโครงสร้างฝั่งอุปทานเป็นหลัก ยืนหยัดการปฏิรูปเชิงการตลาด เพื่อขยายการเปิดประเทศในระดับสูง เร่งสร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนขยายความต้องการภายในประเทศและเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง จะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี ๒๐๑๙
        ๑.๓ การมีความรับผิดชอบตัวเองให้ดีอย่างแน่วแน่ ซึ่งนับตั้งต้นแต่ปีนี้เป็นต้นมา จีนได้ประกาศมาตรการใหม่ด้านการเปิดประเทศอย่างเป็นระบบ รวมทั้งลดภาษีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ๑,๔๔๙ รายการ และสินค้าอุตสาหกรรม ๑,๕๘๕ รายการ รวมถึงประกาศรายชื่อต้องห้ามฉบับใหม่สำหรับทุนชาติ เพื่อเปิดรับทุนต่างชาติด้านการเงิน การผลิตรถยนต์ เครื่องบิน และเรือให้มากขึ้น โดยรายงานจากธนาคารโลกสะท้อนให้เห็นว่า จีนมีระดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้นกว่า ๓๐ อันดับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนยอดการซื้อขายมีมากกว่า ๕๗,๘๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้คนเห็นถึงศักยภาพของตลาดของจีนที่มีประชากรเกือบ ๑,๔๐๐ ล้านคน

๒. ในระหว่างวันที่ ๑๙- ๒๑ ธ.ค.๖๑ ได้มีการประชุมด้านเศรษฐกิจส่วนกลางของจีน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง โดยมีนายสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมด้วยกรรมการกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีก ๖ คนเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้กล่าวถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของจีนว่า
        ๒.๑ ต้องเน้นปรับปรุงปัจจัยที่ตรงข้ามกับวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยดำเนินนโยบายการคลังที่แข็งขันและนโยบายการเงินที่มั่นคง มีการปรับปรุงล่วงหน้าและเล็กน้อยตามเวลาที่เหมาะสม ทำให้ความต้องการอยู่ในระดับที่มั่นคง
        ๒.๒ สำหรับนโยบายการคลังที่แข็งขันต้องเพิ่มประสิทธิผล ลดหย่อนภาษี และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น เพิ่มปริมาณตราสารหนี้ของทางการท้องถิ่น
        ๒.๓ ส่วนนโยบายการเงินที่มั่นคงนั้นต้องมีทั้งความความยืดหยุ่นและความเข้มงวด รักษาสภาพคล่องให้เหมาะสม ปรับปรุงกลไกการส่งผ่านนโยบายการเงิน ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการระดมทุนโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาการระดมทุนยากและค่าใช้จ่ายสูงของวิสาหกิจเอกชนและวิสาหกิจรายย่อย

๓. ในการประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาและปฏิรูปทั่วประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ ธ.ค.๖๑ โดยเน้นถึงระบบการพัฒนาการปฏิรูปทั่วประเทศในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) ที่ให้ความสำคัญกับการทำงาน ๘ ด้าน เช่น การยกระดับการเปิดประเทศ การส่งเสริมการพัฒนาตลาดภายใน ร่วมกันใช้มาตรการต่างๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นจริง โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมการผลิตที่ทันสมัย เป็นต้น สำหรับในด้านการยกระดับการเปิดประเทศนั้น ที่ประชุมกำหนดอย่างชัดเจนว่า ต้องสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative : BRI) ที่มีคุณภาพและมาตรฐานในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) ส่วนในด้านการส่งเสริมการพัฒนาตลาดภายใน ที่ประชุมชี้ว่า จะส่งเสริมการพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีที่สำคัญ รวมทั้งเร่งรัดการปรับปรุงอุตสาหกรรมเดิมและส่งเสริมสิ่งใหม่ๆ

บทสรุป

ซึ่งการประชุมกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันที่ ๑๓ ธ.ค.๖๑ ที่เน้นถึงการผลักดันการเปิดประเทศอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ และการยึดลักษณะพิเศษ โดยเปลี่ยนการเปิดประเทศที่มีสินค้าและปัจจัยเป็นหลัก ไปเป็นการเน้นกฎเกณฑ์และกลไก ทั้งนี้เนื่องจาก ๒ ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศจีนเน้นใช้กฎเกณฑ์องค์การการค้าโลก (WTO) กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในขณะที่การปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนก็ต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์สากลด้วย ซึ่งแตกต่างจากช่วงก่อนหน้าการปฏิรูปของจีนที่เน้นความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก แต่ปัจจุบันต้องเน้นการเปิดประเทศควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) จีนจึงจะจัดงานใหญ่ๆ เพื่อรองรับเช่น การประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือนานาชาติ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”ครั้งที่ ๒ และงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ ๒ เป็นต้น

ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์ 

http://thai.cri.cn/20181214/92fb2956-41b9-8cd7-e5e3-b582f94274f4.html

http://thai.cri.cn/20181222/1a7d1cf5-3d65-f2f4-6e9d-88aef795592e.html 

http://thai.cri.cn/20181222/45aa4009-ae9b-15ea-fa94-3c1651c57fac.html 

http://thai.cri.cn/20181223/be43efb9-5d1b-673e-c87c-a2d8c694fd62.html