bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอาทิตย์ที่ ๔ เม.ย.๖๔ ข้อสังเกตของจีนต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้

๑. จากกรณีเหตุการณ์เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ในวันที่ ๑ เม.ย.๔๔ โดยเครื่องบินลาดตระเวน EP-3 ของกองทัพสหรัฐฯ ได้ทำการลาดตระเวนเหนือน่านน้ำใกล้เกาะไหหลำของจีน ซึ่งกองทัพเรือจีนได้ส่งเครื่องบินขับไล่ J-8II จำนวน ๒ ลำ เพื่อตรวจตราและสกัดกั้น ส่งผลให้เครื่องบินขับไล่ J-8II ของจีนชนกันกับเครื่องบิน EP-3 ของกองทัพสหรัฐฯ เหนือเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๗๐ ไมล์ทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำของจีน เป็นเหตุให้หวาง เหว่ย (王伟 /Wang Wei) นักบินประจำเครื่องบินขับไล่ของจีนเสียชีวิต ในขณะที่เครื่องบินทหารสหรัฐฯ ต้องลงจอดอย่างฉุกเฉิน ที่สนามบินหลิงสุ่ยบนเกาะไหหลำ (海南陵水机场) โดยไม่ได้รับอนุญาต
 
๒. บทความวิเคราะห์ในเว็บไซต์เรื่อง "สถานการณ์การรับรู้ยุทธศาสตร์ทะเลจีนใต้" (“南海战略感知态势”) เชื่อว่ากิจกรรมการลาดตระเวนของกองทัพสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยตามสถิติที่เปิดเผยต่อสาธารณะ พบว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิบัติการ "เสรีภาพในการเดินเรือ" (“航行自由行动”) ในทะเลจีนใต้ในปี พ.ศ.๒๕๖๑ จำนวน ๕ ครั้ง เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.๒๕๖๒ จำนวน ๘ ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้น ๖๐%
 
บทสรุป

ในปี พ.ศ.๒๕๖๓ แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ที่ได้ระบาดไปทั่วโลก แต่กองทัพสหรัฐฯ ก็ยังคงรักษากิจกรรมทางทหารที่มีความเข้มข้นสูงในทะเลจีนใต้ตลอดทั้งปี โดยกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน ๓ ลำ พร้อมกลุ่มอาวุธยุทโธปกรณ์สะเทินน้ำสะเทินบก ๒ กลุ่มและเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์หลายลำเข้าสู่ทะเลจีนใต้ รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52H และเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ของสหรัฐฯ ได้มีความเคลื่อนไหวเข้าออกทะเลจีนใต้จำนวน ๑๗ ครั้ง เพื่อปฏิบัติการปรับกำลัง
 
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล  

ข้อมูลจากเว็บไซต์ 

https://www.163.com/dy/article/G6G17DHB051481US.html 

https://www.globaltimes.cn/page/202104/1220085.shtml