bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๑ ก.ค.๖๑ : นาย เหลียน จ้าน อดีตประธานพรรคก๊กมินตั๋ง แห่งไต้หวันได้นำคณะฯ เข้าพบประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

กรณีที่นาย เหลียน จ้าน อดีตประธานพรรคก๊กมินตั๋ง แห่งไต้หวันได้นำคณะฯ เข้าพบประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๓ ก.ค.๖๑ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ท่าทีของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยได้กล่าวกับผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งมีแนวนโยบายเป็นมิตรกับจีนว่า
        ๑.๑ มีความเชื่อมั่น และความสามารถในการหาทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อพัฒนาสันติภาพในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบ ขณะที่ผลักดันความคืบหน้าในการรวมชาติจีนอย่างสันติ
        ๑.๒ จีนและไต้หวันจะไม่ยุติการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกัน แม้มีความไม่ลงรอยระหว่างประชาชนสองฟากฝั่งไต้หวันในบางประเด็น โดยจีนยึดถือ “นโยบายจีนเดียว และฉันทามติ ๑๙๙๒” เป็นพื้นฐานในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกัน และจะต่อต้าน “อิสรภาพไต้หวัน” อย่างเด็ดขาด
        ๑.๓ จีนยืนยันมาตรการต่างๆ ที่ได้ประกาศเมื่อเดือน มี.ค.๖๑ ในการเปิดโอกาสที่ดี ให้แก่กลุ่มบริษัทและบุคคลจากไต้หวัน เข้ามาเจาะตลาดในแผ่นดินใหญ่ ตลอดจนภาคการจ้างงานและภาคสังคม
        ๑.๔ ท่าทีน้ำเสียงของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ช่วยลดอุณหภูมิความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน ขณะที่กลุ่มสายเหยี่ยวในจีนออกมาเร่งเร้าเสียงดังมากขึ้น ให้โต้ตอบสหรัฐฯกรณีการเข้ามาแทรกแซงกิจการช่องแคบฯในช่วงนี้ อีกทั้งนางไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันคนปัจจุบัน มีท่าทีที่สนับสนุนอิสรภาพของไต้หวัน

๒. เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ ก.ค.๖๑ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดที่ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบของฝ่ายไต้หวัน คือ รัฐมนตรีสภากิจการแผ่นดินใหญ่ นาย เฉิน หมิงทง ได้ออกเดินทางไปเยือนสหรัฐฯเป็นเวลา ๙ วัน เพื่อยกระดับการสื่อสารระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ โดยอาจมีการล็อบบี้สหรัฐฯ ให้สนับสนุนนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบของไต้หวันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การเดินทางไปสหรัฐฯ ของนาย เฉินฯ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เรือพิฆาตสองลำของสหรัฐฯ ได้ออกมาลาดตระเวนในช่องแคบไต้หวันเมื่อต้นเดือน ก.ค.๖๑ ซึ่ง นาย หลิว เจียอี้ เจ้าหน้าที่ดูแลกิจการไต้หวันของจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ กำลัง “เดินเกมไต้หวัน” ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังมีข้อพิพาทการค้ากับจีนแผ่นดินใหญ่

๓. ข้อสังเกต
        ๓.๑ หลี่ เจิ้งกวง ผู้ช่วยหัวหน้าสถาบันการศึกษาเรื่องไต้หวันของมหาวิทยาลัย Beijing Union University กล่าวว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ใช้การพบปะกับเหลียน จ้าน และคณะผู้แทนจากไต้หวัน เพื่อบรรเทาความวิตกสาธารณะที่กำลังกลัวกันว่า จีนแผ่นดินใหญ่จะวางแผนใช้กองกำลังเข้ายึดครองไต้หวันหรือไม่ ทั้งนี้ เนื่องจากความสัมพันธ์ในช่องแคบไต้หวันกำลังเผชิญศึกท้าทายทั้งจากภายในและภายนอกนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตลาดตระเวนช่องแคบไต้หวัน เมื่อวันที่ ๗ ก.ค.๖๑ ซึ่งทำให้กลุ่มสายเหยี่ยวในจีนแผ่นดินใหญ่ออกมาเร่งเร้าให้ใช้กองกำลังไปยึดดินแดนไต้หวันคืนมา
        ๓.๒ Andrew Yang Nien-dzu อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังได้ส่งสารให้แก่ทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ ว่า “จีนยังสงบสติอารมณ์” แม้สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตเข้ามายั่วยุ รวมถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้รับรอง “กฎหมายการเดินทางไต้หวัน” (Taiwan Travel Act) เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาด้วย

บทสรุป

การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้รับรอง “กฎหมายการเดินทางไต้หวัน” นั้น ทำให้เป็นการเปิดทางให้เจ้าหน้าทุกระดับของสหรัฐฯ เดินทางไปไต้หวัน และสามารถพบปะกับเจ้าหน้าที่ของไต้หวัน รวมทั้งเป็นการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวันเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้ ซึ่งจีนถือว่า การผ่านกฎหมายการเดินทางไต้หวันดังกล่าวนี้ เป็นการละเมิดต่อนโยบายจีนเดียว ทั้งนี้ แม้ว่าจีนและไต้หวันได้แยกจากกันนับตั้งแต่ปี ๑๙๔๙ (พ.ศ.๒๔๙๒) เมื่อนายพล เจียง ไคเช็ค ผู้นำก๊กมินตั๋ง ได้พ่ายแพ้สงครามกลางเมืองในจีนแก่พรรคคอมมิวนิสต์ จึงนำกำลังถอยร่นไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวันและจัดตั้งรัฐบาลปกครองขึ้นต่างหาก แต่รัฐบาลจีนยึดถือมาตลอดมาว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน ในขณะที่ในระยะหลังความสัมพันธ์ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันไม่ค่อยราบรื่นนัก จากการที่นางไช่ อิงเหวิน ผู้นำพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้นำไต้หวัน (ประธานาธิบดี) เมื่อปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) มีความโน้มเอียงที่จะนำไต้หวันไปสู่อิสรภาพ นอกจากนี้ นางไช่ อิงเหวิน ได้แถลงปฏิเสธ “ฉันทามติ ๑๙๙๒” ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกันมาตลอด ทำให้หลายฝ่ายกังวลต่อความอ่อนไหวจากกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะจุดยืนของจีนแผ่นดินใหญ่ที่เคยประกาศว่า อาจต้องใช้กำลังเข้ายึดดินแดนหากจำเป็น ในกรณีที่ไต้หวันประกาศเอกราช หรือพยายามขัดขวางต่อการรวมชาติ หรือยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในดินแดนไต้หวัน

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://en.people.cn/n3/2018/0714/c90000-9480951.html

https://mgronline.com/china/detail/9610000071302

https://www.reuters.com/article/us-usa-taiwan-china/trump-signs-u-s-taiwan-travel-bill-angering-china-idUSKCN1GS2SN

https://tribune.com.pk/story/1662401/3-trump-approves-official-travel-taiwan/

https://www.dw.com/en/donald-trump-signs-taiwan-travel-act-drawing-chinas-ire/a-43018787

https://www.smh.com.au/world/north-america/trump-signs-taiwan-travel-bill-that-china-has-opposed-20180317-p4z4tv.html